แลนดิ้งเพจ (Landing Page)|การไม่ใส่เมนูนำทางมีผลต่อ SEO หรอไม่

本文作者:Don jiang

落地页(Landing Page)不放导航菜单对SEO有影响吗

Table of Contens

บทบาทหลักของหน้า Landing Page และหลักการออกแบบ​

Landing Page คือหน้าสำคัญที่ผู้ใช้งานเข้ามาผ่านโฆษณาหรือการค้นหา เป้าหมายหลักไม่ใช่การโชว์ข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ แต่คือการพาผู้ใช้ไปยังเป้าหมายให้เร็วที่สุด (เช่น ซื้อของหรือกรอกแบบฟอร์ม)

การออกแบบต้องเน้นเฉพาะจุด หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแปลงยอด

บทบาทหลัก: เน้นการแปลง ไม่ใช่แค่ให้ข้อมูล

  • Landing Page มีหน้าที่แค่กระตุ้นให้ผู้ใช้ทำสิ่งที่เราต้องการ (เช่น คลิกปุ่ม กรอกข้อมูล) ทุกอย่างในหน้านี้ต้องสนับสนุนเป้าหมายนั้น
  • จุดเชื่อมกับ SEO: เนื้อหาควรตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา เช่น คำโฆษณา “ลดราคาพิเศษ” ควรตรงกับคำค้นอย่าง “XXX โปรลดราคา” เพื่อเพิ่มอันดับในผลลัพธ์การค้นหา

หลักการออกแบบ 1: ตัดสิ่งรบกวน มุ่งไปที่การกระทำหลัก

  • ตัดเมนูนำทางที่ไม่จำเป็น: ซ่อนหรือทำให้เมนูด้านบน/ด้านข้างเรียบง่าย เพื่อไม่ให้ผู้ใช้คลิกไปหน้าอื่นให้ไขว้เขว
  • ใช้ภาพนำสายตา: ใช้สีตัด ลูกศร หรือปุ่มในตำแหน่งเด่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสที่การกระทำหลัก เช่น “สั่งซื้อเลย”

หลักการออกแบบ 2: เนื้อหาเกี่ยวข้อง ลดอัตราการเด้ง

  • หัวข้อ เนื้อหา รูปภาพต้องตรงกับธีมของ Landing Page เช่น ถ้าโฆษณาขายครีมกันแดดหน้าร้อน ห้ามเอารูปสินค้าหน้าหนาวมาใส่
  • ข้อควรระวังด้าน SEO: ถ้าเนื้อหาไม่ตรงกับสิ่งที่คนค้นหา ต่อให้มีคนเข้าเยอะ ก็จะออกจากหน้าเร็ว ทำให้อันดับ SEO แย่ลง

หลักการออกแบบ 3: ใช้งานไว โหลดเร็ว รองรับมือถือ

  • หลีกเลี่ยงเอฟเฟกต์ซับซ้อน ไฟล์รูปหรือวิดีโอที่ใหญ่เกินไป ควรทำให้โหลดเสร็จใน 3 วินาที (เพราะความเร็วโหลดมีผลกับ SEO)
  • รองรับมือถือเป็นหลัก: ขนาดปุ่ม ระยะห่างของข้อความต้องเหมาะกับการแตะบนหน้าจอเล็ก เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เผลอกดผิด

หลักการออกแบบ 4: มีลิงก์ภายในเท่าที่จำเป็น

  • ไม่แนะนำให้ตัดเมนูทั้งหมด: ใส่ลิงก์พื้นฐานไว้ที่ด้านล่างของหน้า เช่น “นโยบายความเป็นส่วนตัว” หรือ “การคืนสินค้า” ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและยังให้บอทค้นหาเข้าถึงได้
  • ใส่ลิงก์สินค้าที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา เช่น “คนที่ซื้อรองเท้าคู่นี้ก็มักดูสนับเข่าด้วย” เพิ่มความเกี่ยวข้องและส่งพลัง SEO ให้หน้าอื่น

การไม่ใส่เมนูนำทางกระทบ SEO ไหม?

หลายคนเอาเมนูออกเพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับปุ่มหรือการกระทำหลัก เช่น คลิก “ซื้อเลย” — ดูเหมือนดีต่อผู้ใช้ แต่จริงๆ อาจมีผลกับ SEO ได้

ข้อดี: รวมพลังไว้ที่หน้าเดียว ดันอันดับคำหลัก

  • ลิงก์ภายในน้อยลง พลัง SEO กระจุกที่หน้านี้: เมนูปกติมีลิงก์ไปหลายหน้า เอาออกแล้วจะไม่มี “พลัง” ไหลออกไป หน้านี้จะได้อันดับดีขึ้นในคำค้นที่เราตั้งใจ เช่น “รองเท้ากันน้ำ”
  • ผู้ใช้ไม่ไขว้เขว อยู่หน้าเดิมได้นานขึ้น: ถ้าเนื้อหาตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้หา เช่น คนค้น “ลดราคาผ้าใบ” แล้วเจอหน้าลดราคาเป๊ะๆ ไม่มีเมนูให้คลิกไปหน้าอื่น ก็จะอยู่นานขึ้น ส่งสัญญาณดีให้ Google

ข้อเสีย: บอทหาทางไม่เจอ โครงสร้างเว็บขาด

  • เสี่ยงเป็นหน้าโดดเดี่ยว: ถ้าไม่มีลิงก์ออกหรือเข้าจากหน้าอื่น Google อาจมองว่าเป็น “เกาะร้าง” โดยเฉพาะเว็บไซต์ใหม่หรือเว็บที่ยังไม่มีพลัง SEO มาก
  • การกระจาย SEO ในเว็บหยุดชะงัก: เมนูนำทางช่วยส่งพลัง SEO ไปทั่วเว็บ เอาออกแล้วต้องพึ่งหน้าอื่นลิงก์มาหา ถ้าโครงสร้างเว็บไม่ดี หน้า Landing Page จะไม่มีพลังมาช่วยดัน

พฤติกรรมผู้ใช้อาจมีผลทั้งดีและเสีย

  • อัตราเด้งสูง ≠ ผลลบเสมอ: ถ้าผู้ใช้อยู่ในหน้านานและทำเป้าหมายสำเร็จ เช่น กรอกฟอร์ม ต่อให้เด้งออกไปทันที Google ก็ยังมองว่าเป็นหน้าที่ดี
  • ตัวอย่าง: หน้า Landing Page ของคอร์สออนไลน์เอาเมนูออก อัตราเด้งเพิ่มจาก 75% เป็น 82% แต่เวลาที่ผู้ใช้อยู่เพิ่มจาก 30 วิ เป็น 2 นาที อันดับคำค้นหลักกลับดีขึ้น

ทางสายกลาง: ทำยังไงให้เสีย SEO น้อยที่สุด

  1. ใส่ลิงก์พื้นฐานไว้ที่ท้ายหน้า: เช่น “นโยบายความเป็นส่วนตัว” “ติดต่อเรา” เพื่อให้บอทหาเจอ และยังดูน่าเชื่อถือ
  2. ใส่ลิงก์ที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา: เช่น “คนที่ซื้อรองเท้าคู่นี้ก็มักดูสนับเข่าด้วย” ใช้ข้อความที่เกี่ยวข้องเชื่อมกับหน้าอื่น จะได้ส่งพลัง SEO
  3. ใช้ข้อมูลแบบมีโครงสร้าง (Schema): แจ้งให้ Google รู้ว่าเป็นหน้าสินค้า ราคา มีของหรือไม่ จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้โดยไม่ต้องมีเมนู

เมื่อไหร่ที่ตัดเมนูนำทางได้แบบไม่ต้องกลัว SEO?

  1. หน้าโปรโมชันช่วงสั้น: เช่น หน้าแคมเปญ 11.11 ที่มีอายุการใช้งานสั้น และเป้าหมายชัดเจน อาจยอมเสีย SEO บ้างเพื่อเน้นยอดขาย
  2. หน้าในเว็บที่มีพลัง SEO สูงอยู่แล้ว: เช่น เว็บแบรนด์ดังที่มีโครงสร้างดีอยู่แล้ว ถ้าหน้า Landing Page ไม่มีเมนู ก็ไม่กระทบมาก
  3. หน้าบนมือถือแบบแยก: มักออกแบบให้เต็มจอเพื่อประสบการณ์ใช้งานดี ใส่เมนูแบบพับซ่อน (ไอคอนแฮมเบอร์เกอร์) แทนเมนูเต็ม เพื่อสมดุลระหว่าง UX และ SEO

ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมผู้ใช้กับ SEO

ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ (เช่น อัตราการตีกลับ, ระยะเวลาอยู่ในหน้า, ความลึกของการคลิก) เป็นปัจจัยสำคัญที่เสิร์ชเอนจินใช้ประเมินคุณภาพของหน้าเว็บ — มันสะท้อน間ๆ ได้ว่าผู้ใช้พอใจกับเนื้อหาหรือเปล่า

แต่หลายคนยังเข้าใจผิดกับตัวชี้วัดเหล่านี้ เช่น คิดว่า “อัตราการตีกลับสูง = แย่” โดยไม่ดูว่าผู้ใช้ทำสำเร็จตามเป้าหมายรึยัง

อัตราการตีกลับ: สูง ≠ แย่ ต้องดูเจตนาของผู้ใช้ด้วย

  • ในกรณีที่มีการแปลงสำเร็จ (Conversion): ถ้าผู้เข้าเว็บคลิกมาที่หน้าแลนดิ้งแล้วทำสิ่งที่เราต้องการเลย (เช่น สั่งซื้อสินค้า) ถึงแม้อัตราการตีกลับจะสูง ก็ถือว่า “ผู้ใช้พอใจ” และอาจไม่ส่งผลลบต่ออันดับ
  • สัญญาณลบ: ถ้ามีคนเสิร์ชว่า “จะแก้ปัญหา XX ยังไง” แล้วคลิกเข้าไป 3 วินาทีแล้วออก โดยไม่มีการกดอะไรเลย แบบนี้จะเป็นตัวฉุดอันดับได้

ระยะเวลาอยู่ในหน้า: ยาว ≠ ดี ต้องดูคุณค่าของเนื้อหาด้วย

  • อยู่แบบมีคุณภาพ: ถ้าผู้อ่านตั้งใจอ่านบทความยาว ๆ หรือกดโต้ตอบในหน้า (เช่น เลือกตัวกรองสินค้า) เวลาที่อยู่นานก็จะส่งผลดีต่อ SEO
  • อยู่นานแบบไม่ตั้งใจ: ถ้าหน้าโหลดช้า หรือออกแบบมั่ว ๆ จนคนหาปุ่มไม่เจอ ต้องใช้เวลานานกว่าจะกดออก แบบนี้จะกลายเป็นประสบการณ์แย่ ๆ ที่เสิร์ชเอนจินจับได้

ความลึกของการคลิก: การมีปฏิสัมพันธ์ในเว็บส่งผลต่อการกระจายน้ำหนัก

  • ไม่มีเมนูนำทาง = อันตราย: ถ้าเอาเมนูออก ผู้ใช้อาจไปหน้าอื่นในเว็บไม่ได้ ความลึกของการคลิกจะต่ำลง ซึ่งอาจทำให้เสิร์ชเอนจินมองว่าเว็บมีคุณค่าน้อยลง
  • ทางเลือก: ใส่โมดูลแนะนำในบทความ เช่น “คนอื่นยังดูสิ่งนี้ด้วย” เพื่อให้คนกดไปหน้าอื่นได้จากเนื้อหาโดยตรง

พฤติกรรมผู้ใช้กับ SEO: แข่งกันแบบอ้อม ๆ

กรณีศึกษา:

หน้า A: ไม่มีเมนู, คนอยู่เฉลี่ย 2 นาที, อัตราแปลง 15%, ความลึกคลิกแค่ 1 ชั้น;

หน้า B: มีเมนูแบบย่อ, คนอยู่เฉลี่ย 1.5 นาที, อัตราแปลง 12%, ความลึกคลิก 3 ชั้น

ผลลัพธ์: หน้า A มีอันดับคำหลักหลักดีกว่า แต่หน้า B ได้ทราฟฟิกจากคำระยะยาว (Long-tail) เสถียรกว่า

สรุป: ถ้าเป้าหมายหน้าชัดเจน (เช่น โปรโมตสินค้า) ให้เน้นการแปลง; ถ้าอยากได้ทราฟฟิกระยะยาว ต้องชวนคนไปหน้าอื่นด้วย

กลยุทธ์การปรับให้พฤติกรรมผู้ใช้ช่วย SEO

  1. ให้ตรงกับความตั้งใจในการค้นหา: ชื่อหน้า กับย่อหน้าแรก ต้องเกี่ยวข้องกับคำที่คนเสิร์ช เพื่อป้องกันคนคลิกผิดแล้วกดออกทันที
  2. ออกแบบปุ่มให้ชวนคลิก: ใช้พวกปุ่มที่ดึงดูดใจ เช่น “70% เลือกแพ็คเกจนี้” หรือเคาน์ดาวน์โปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม
  3. ตรวจสอบและทดสอบแบบ AB: ใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics เปรียบเทียบหลายเวอร์ชัน แล้วเลือกอันที่ “แปลงดี+เวลาอยู่เหมาะสม” ที่สุด

จะบาลานซ์ UX กับ SEO ยังไงดี

การออกแบบหน้าแลนดิ้งมักต้องเลือกว่าจะเอาประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุด (เช่น ตัดเมนู, ทำหน้าให้เรียบที่สุด) หรือจะทำ SEO แบบจัดเต็ม (เช่น ใส่คำเยอะ ๆ, ลิงก์เยอะ ๆ)

ความขัดแย้งนี้แก้ได้ ถ้าเข้าใจเป้าหมายของทั้งสองฝ่าย — ให้ข้อมูลที่มีคุณค่ากับผู้ใช้

ตั้งลำดับความสำคัญให้ชัด: หน้านี้เน้นอะไร?

  • หน้าที่เน้นการแปลง (เช่น หน้าโปรโมชัน): ตัดเมนูออกได้ แต่แนะนำให้มีลิงก์พื้นฐานในส่วนท้าย (เช่น “คำถามที่พบบ่อย”, “นโยบายคืนสินค้า”) เพื่อให้ Google ยังจับเนื้อหาได้ และคนเชื่อถือ
  • หน้าที่เน้น SEO (เช่น หน้าแนะนำ/บทความ): มีเมนูแบบเรียบง่าย (เช่น Breadcrumb) เพื่อให้คนไปหน้าอื่นต่อได้ และส่งผ่านค่าลิงก์ภายใน

จัดวางเนื้อหา: ให้ผู้ใช้เดินสะดวก พร้อมฝังคำ SEO ไปด้วย

  • หน้าแรกเอาให้ขาย, คำระยะยาวใส่ท้าย ๆ: ส่วนบนให้มีปุ่มชัด ๆ และคำหลักเด่น ๆ ส่วนกลาง-ท้าย ค่อยใส่คำระยะยาว เช่น “ดูแลรองเท้ากีฬาอย่างไร” เพื่อให้คนอ่านต่อ
  • FAQ: ใส่ส่วนคำถาม-คำตอบไว้ท้ายหน้า ช่วยทั้งแก้ข้อสงสัยให้ผู้ใช้ และใส่คำเสิร์ชยอดฮิตลงไปได้ด้วย

ปรับทางเทคนิค: ให้โหลดไวและเสิร์ชเอนจินเข้าใจ

  • Lazy Load: โหลดเฉพาะของที่อยู่บนจอก่อน เช่น ปุ่มสำคัญ รูปหลัก ส่วนอื่นค่อยโหลดตอนเลื่อน เพื่อให้เว็บไวขึ้น (ดีต่อ SEO)
  • ใช้ Schema: ใส่ข้อมูลพิเศษ เช่น ราคา คะแนน สต๊อก ผ่านโค้ด เพื่อให้ Google เข้าใจว่าเว็บเรามีค่า ไม่ต้องพึ่งลิงก์มาก

ใส่ลิงก์ภายในแบบแนบเนียน

  • ลิงก์ในเนื้อหา: แทรก 1-2 ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เช่น “ดูวิดีโอรีวิวจากผู้ใช้จริง” แต่อย่าใช้คำเชย ๆ อย่าง “คลิกที่นี่”
  • กล่องแนะนำ: ตอนที่คนเลื่อนถึงท้ายหน้า ให้เด้ง “คุณอาจสนใจสิ่งนี้” (ปิดได้) เพื่อชวนคนกดไปต่อ ส่งผลดีทั้งทราฟฟิกและ SEO

ใช้ข้อมูลตัดสิน: A/B Test และติดตามผล

  • เปรียบเทียบตัวชี้วัด: ดูทั้งอัตราแปลง (UX) และทราฟฟิกจากการค้นหา (SEO) ถ้าตัดเมนูแล้วแปลงดีขึ้น แต่ทราฟฟิกหายเกิน 10% อาจต้องคิดใหม่
  • ใช้ Heatmap: ใช้เครื่องมืออย่าง Hotjar ดูว่าคนคลิกตรงไหน เลื่อนถึงจุดไหน ถ้าคนพยายามหาทางกลับหน้าแรก แต่ไม่มีให้คลิก แปลว่าควรใส่ลิงก์ที่ท้ายหน้า

จำไว้ว่ามีหลักเดียว: ไม่มีเทมเพลตที่สมบูรณ์แบบ มีแต่ข้อมูลจริงที่ต้องปรับเรื่อย ๆ

Picture of Don Jiang
Don Jiang

SEO本质是资源竞争,为搜索引擎用户提供实用性价值,关注我,带您上顶楼看透谷歌排名的底层算法。

最新解读
滚动至顶部